ชื่ออื่น ๆ: -
ชื่อวิทยาศาสตร์: Senna spectabilis (DC.) H.S.Irwin & Barneby
ชื่อสามัญ: Spectacular Cassia.
ชื่อวงศ์: FABACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ต้น สูง 5-10 ม. ขนาดทรงพุ่มกว้าง 4-6 ม. ทรงพุ่มแผ่กว้าง เปลือกต้นแตกเป็นร่องตื้นตามยาว สีน้ำตาลเข้มหรือสีน้ำตาลแกมเขียว เปลือกต้นอ่อนมีขนสั้นคลุม ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงแบบสลับ แกนกลางใบประกอบยาว 25-30 ซม. ใบย่อย มี 10-15 คู่ ใบย่อยรูปรี กว้าง 1-2 ซม. ยาว 3-7 ซม. โคนใบมนหรือเบี้ยว ปลายใบแหลม หรือเป็นติ่งแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ ผิวใบด้านบนเรียบ ผิวใบด้านล่างมีขนละเอียดคลุม ช่อดอกแบบช่อแยกแขนงออกที่ปลายยอด ช่อดอกตั้ง ยาว 30-40 ซม. ดอกย่อยมีจำนวนมาก รูปดอกถั่ว มี 6-60 ดอก สีเหลือง หรือสีเหลืองแกมขาว ดอกบานมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5-4 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียว กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน กลีบดอกรูปไข่แกมรูปรี แผ่นกลีบบาง ขอบกลีบเรียบ สีเหลือง เกสรเพศผู้ 10 อัน เป็นหมัน 3 อัน เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ผลแบบฝักแห้งแล้วแตก รูปขอบขนานแคบหรือรูปทรงกระบอก กว้าง 0.8-1.3 ซม. ยาว 15-30 ซม. ฝักอ่อนเสีเขียว ฝักแก่สีน้ำตาลเข้ม หรือสีน้ำตาลแกมดำ เมล็ด มี 50-70 เมล็ด รูปรี สีน้ำตาล
ประโยชน์:
สมุนไพร: สรรพคุณ ใบ นำมาต้มอบไอน้ำ ช่วยรักษาคนติดฝิ่น ใบและดอก ตากแดดให้แห้ง ต้มดื่มรับประทานเป็นยาถ่ายเสมหะ เป็นยาระบาย และเป็นยาถ่ายโลหิตระดูของสตรี
อาหาร: -
ไม้ประดับ: -
พรรณไม้ย้อมสีธรรมชาติ: -
ระยะเวลาการออกดอก: พบออกดอกตลอดทั้งปี พบมากช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม
ข้อมูลพฤกษศาสตร์ที่สำคัญ: -
IUCN: ไม่ถูกคุกคาม LC (Least Concerned)
หมายเหตุ: แหล่งที่พบ ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (สวนพฤกษศาสตร์)